ผมหยุดให้เงินลูกเติมเกม แล้วเปลี่ยนมาสอนให้เขาเป็น ‘เจ้าของ’ เกมที่เขาเล่นแทน — นี่คือจุดเริ่มต้น
สวัสดีครับชาว Daddy Investor ทุกท่าน
ผมเชื่อว่าพ่อแม่ในยุคนี้, โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกชายสายเกมเมอร์, น่าจะคุ้นเคยกับ “สัญญาณ” บางอย่างเป็นอย่างดี…
สำหรับบ้านเรา มันไม่ใช่เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันไหนครับ แต่มันคือเสียงฝีเท้าตึกๆๆ ที่วิ่งตรงมาหาผม พร้อมกับการสะกิดเบาๆ ที่แขน และประโยคคลาสสิกที่มาพร้อมกับสายตาแป๋วๆ ที่มีความหวังเต็มเปี่ยม…
“พ่อครับ…ขอเติมเกมหน่อย” ![]()
นี่คือภารกิจประจำสัปดาห์ของลูกชายวัย 8 ขวบของผมครับ การเติมเงิน ‘Robux‘ เข้าไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่ของ Roblox มันคือตั๋วผ่านทางเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการและการผจญภัยกับกลุ่มเพื่อนของเขา และแน่นอน…มันคือ ‘ภาษีความสุข’ ที่ผมในฐานะพ่อ ก็ยินดีจ่ายเพื่อแลกกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขา
มันเป็นภาพที่คุ้นตาในบ้านเรามาสักพักใหญ่แล้วครับ ลูกชายนั่งอยู่หน้า iPad สวมหูฟัง พูดคุยวางแผนกับเพื่อนๆ อย่างออกรสออกชาติ ส่วนคนเป็นพ่ออย่างเรา ก็มีหน้าที่เป็นหน่วยสนับสนุนหลังบ้าน คอยเดินไปจัดการเรื่องงบประมาณให้ภารกิจของเขาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี… ผมมีความสุขที่เห็นเขาสนุกกับสิ่งที่ชอบ และได้เรียนรู้การเข้าสังคมในรูปแบบของเด็กยุคใหม่
แต่มีอยู่วันหนึ่ง… ในเย็นวันศุกร์ที่แสนจะธรรมดาวันหนึ่ง ลูกชายวิ่งมาหาผมเหมือนเช่นเคย พร้อมกับคำขอเดิม ผมกำลังจะพยักหน้าตอบตกลงและลุกไปจัดการให้เหมือนทุกครั้ง แต่มีบางอย่างทำให้ผมชะงัก… อาจจะเป็นเพราะตัวเลขค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิตที่เพิ่งส่งสรุปยอดมาเมื่อวันก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะหนังสือการลงทุนที่ผมอ่านค้างไว้บนโต๊ะทำงาน… ผมก็ฉุกคิดขึ้นมาแวบหนึ่ง ![]()
“เดือนนี้… เราเติมไปเท่าไหร่แล้วนะ?”
คำถามง่ายๆ นี้ นำไปสู่การไตร่ตรองที่ลึกซึ้งกว่าที่ผมคาดไว้ ผมไม่ได้เปิดดูสลิปย้อนหลังอย่างจริงจังหรอกครับ แต่แค่ลองนึกย้อนดูตัวเลขคร่าวๆ ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา… 300 บาทบ้าง, 500 บาทบ้าง… โอ้โห! บอกตามตรงว่าตัวเลขในใจที่ผมคำนวณได้นั้น มันทำให้ผมตาโตเลยทีเดียว
เงินก้อนนี้… มันมากพอที่จะเอาไปถัวเฉลี่ย DCA กองทุน ETF ดีๆ อย่าง S&P 500 ได้สบายๆ ทุกเดือน หรืออาจจะมากพอที่จะซื้อหุ้นพื้นฐานดีๆ ของไทยเก็บไว้ได้หลายตัวเลยด้วยซ้ำ
วินาทีนั้น ความคิดในหัวของ ‘แดดดี๊นักลงทุน’ มันก็เริ่มทำงานอย่างเต็มสูบ มันไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเงินที่จ่ายไปครับ แต่มันคือเรื่องของ ‘กระบวนทัศน์’ (Paradigm) ที่เรากำลังปลูกฝังให้กับลูกโดยไม่รู้ตัว
—
หลุมพรางของผู้บริโภค (The Consumer Trap)
ผมตระหนักได้ว่า ในฐานะผู้ปกครอง เรากำลังสอนลูกให้เป็น ‘ผู้บริโภค’ (Consumer) ที่สมบูรณ์แบบ เราสอนให้เขารู้ว่า ‘ความสุข’ หรือ ‘ความสำเร็จในเกม’ สามารถ ‘ซื้อ’ ได้ด้วยเงิน เรากำลังสร้างวงจรที่เงินไหลออกจากกระเป๋าของเรา ไปสู่บริษัทเกม เพื่อแลกกับความพึงพอใจชั่วครั้งชั่วคราว แล้วก็จบลง… เงินนั้นได้เดินทางเที่ยวเดียว มันคือค่าใช้จ่ายที่ ‘หายไป’ อย่างสมบูรณ์ 100%
มันคือหลุมพรางที่สวยงามและทรงพลังที่สุดในระบบทุนนิยมครับ เราถูกสอนให้ทำงานหาเงิน เพื่อนำเงินนั้นไป ‘ซื้อ’ ความสุข และ Roblox ก็เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดสำหรับเด็กในยุคนี้ พวกเขาไม่ได้แค่เล่นเกม แต่พวกเขากำลังเรียนรู้ที่จะเป็นผู้บริโภคในโลกอนาคต
ผมมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ… เงินของเราไหลออกไป ทำให้บริษัทเกมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ หุ้นของพวกเขามีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เงินในบัญชีของเราลดลง และลูกชายของเราก็ได้เรียนรู้เพียงบทบาทเดียวในสมการนี้ คือการเป็น ‘ผู้จ่ายเงิน’
แล้วถ้า… เราจะลองเปลี่ยนสถานะของตัวเองในสมการนี้ล่ะ? ![]()
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่เพียงแค่สอนให้ลูกเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจ แต่สอนให้เขาเป็น ‘เจ้าของสนาม’ ด้วยล่ะ?
เปลี่ยนจากแค่ ‘คนเล่น’ และ ‘คนจ่ายเงิน’
ไปเป็น ‘เจ้าของ’ (Owner) ที่เติบโตไปพร้อมกับบริษัทที่ลูกเรารักเลยจะเป็นยังไง?
ความคิดนี้มันจุดประกายขึ้นมาดังๆ ในหัวผมเลยครับ! มันไม่ใช่แค่การหาทางประหยัดเงินค่าเกม แต่มันคือโอกาสทองที่จะสอนบทเรียนการลงทุนนอกตำราที่ดีที่สุดให้กับลูกชาย มันคือการพลิกวิกฤต ‘รายจ่าย’ ให้กลายเป็น ‘โอกาส’ ในการสร้างความมั่งคั่งและความรู้ทางการเงินไปพร้อมๆ กัน
—
จากแผนการในหัว สู่ภารกิจของสองพ่อลูก
ผมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย การจะเปลี่ยนแนวคิดของเด็กวัย 8 ขวบที่คุ้นเคยกับการได้รับความสุขแบบทันทีทันใด (Instant Gratification) จากการเติมเกม มาสู่แนวคิดของการลงทุนที่ต้องอาศัยความอดทนและการรอคอยผลตอบแทนในระยะยาว (Delayed Gratification) มันคือความท้าทายอย่างยิ่ง
ผมไม่ได้ต้องการจะหักดิบหรือพรากความสุขของเขาไป แต่ผมต้องการ ‘ยกระดับ’ ความสุขของเขาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง… จากความสุขของการเป็นผู้เล่น สู่ความภาคภูมิใจของการเป็น ‘เจ้าของ’
ผมตัดสินใจแน่วแน่ในเย็นวันนั้น… เราจะเริ่ม ‘โปรเจกต์’ ใหม่ด้วยกัน ![]()
เราจะเปลี่ยนเงินเติมเกม ให้กลายเป็น ‘หุ้น’ ของบริษัทเกมแทน!
ผมไม่ได้ตอบตกลงลูกชายในทันที แต่ผมวางมือบนไหล่ของเขา แล้วมองหน้าลูกชายตรงๆ ผมรู้ว่าบทสนทนาต่อไปนี้ อาจจะเป็นบทสนทนาทางการเงินที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาก็เป็นได้
มันคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ ที่จะสอนให้เขารู้จักคุณค่าของเงิน, พลังของการลงทุน, ความสำคัญของความอดทน และที่สำคัญที่สุด คือการมองโลกในมุมของ ‘ผู้สร้าง’ และ ‘เจ้าของ’ ไม่ใช่แค่ในมุมของผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว
(แอบสปอยล์ตอนท้ายของซีรีส์นี้ให้นิดนึงนะครับ… เวลาผ่านไปแค่ 7-8 เดือน โปรเจกต์เล็กๆ ของเราให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมากๆ ลูกชายของผมใจฟูสุดๆ กับตัวเลขกำไรที่มากกว่าที่เราสองคนเคยจินตนาการไว้เสียอีก รอยยิ้มของเขาในวันนั้น… มันกว้างกว่ารอยยิ้มตอนได้เติมเกมเป็นร้อยเท่าเลยครับ
)
โพสต์หน้า… ผมจะมาเล่าให้ฟังครับว่า ผมเริ่มต้นบทสนทนาที่ดูเหมือนจะซับซ้อนและน่าเบื่อเรื่อง ‘หุ้น’ กับเด็ก 8 ขวบได้อย่างไร? ผมใช้อะไรเป็นตัวกลางในการอธิบายแนวคิดที่ยิ่งใหญ่นี้ และก้าวแรกของการเป็นเจ้าของ Roblox ของเราสองคนพ่อลูกเริ่มต้นขึ้นแบบไหน…
รอติดตามกันนะครับ ![]()